ประวัติความเป็นมา การใช้กำยานในพิธีทางศาสนามีมาก่อนศาสนาคริสต์ เช่น ในอียิปต์ใช้กำยานเผาเพื่อเป็น การให้เกียรติแก่ผู้ล่วงลับ หรือเพื่อแสดงความเคารพต่อผู้เป็นใหญ่ในแผ่นดิน เป็นการถวายบูชา แด่เทพเจ้า และเป็นเครื่องหมายแสดงความยินดี และแสดงให้เห็นถึงบรรยากาศแห่งความ ศักดิ์สิทธิ์ ชาวอิสราเอลใช้กำยานเผาบูชารอบ “หีบพันธสัญญา” และต่อมาใช้ในพระวิหารที่กรุง เยรูซาเล็ม มีบัญญัติของพระเจ้าต่อโมเสสว่า ชาวอิสราเอลจะต้องมีพระแท่นเผากำยาน ซึ่งจะเผากำยานหอมทุกเช้าและทุกเย็น เป็นเครื่องหมายแห่งการสดุดีพระเจ้า วางไว้บนพระแท่นนั้น (เทียบ อพย 30:1-10) ใน ลก 1:8-9 ได้กล่าวถึงเศคาริยาห์ขณะกำลังปฏิบัติหน้าที่สมณะ ตามเวรในหมวดของตน ตามธรรมเนียมของสมณะ และท่านจับสลากได้หน้าที่เข้าไปในพระวิหารของพระเจ้าเพื่อถวายกำยาน นอก จากนั้น มธ 2:1-11 ได้กล่าวถึงโหราจารย์จากทิศตะวันออกนำทองคำ กำยาน และมดยอบมาถวายแด่พระกุมารเยซู ในยุคแรกของคริสตชนในพระศาสนจักรตะวันตกยังไม่มีการนำกำยานมาใช้ในพิธีกรรม เนื่อง จากในสมัยนั้นคนต่างศาสนาในกรุงโรมใช้กำยานเพื่อถวายคารวะบรรดาเทพเจ้าและจักรพรรดิ โดย เฉพาะอย่างยิ่งก่อนศตวรรษที่ 4 ที่การถวายกำยานแก่เทพเจ้าหรือจักรพรรดิเป็นเครื่องหมายถึงการ ละทิ้งศาสนาของคริสตชน ในสมัยจักรพรรดิคอนสตันตินในศตวรรษที่ 4 เมื่อคริสตศาสนาเป็นที่ยอมรับในอาณาจักรโรมัน และไม่มีการบังคับให้คริสตชนถวายกำยานแก่เทพเจ้าหรือจักรพรรดิอีกต่อไป พระศาสนจักรตะวันตกจึงเริ่มใช้กำยานในพิธีกรรม ส่วนพิธี กรรมของพระศาสนจักรตะวันออกในสมัยเดียวกัน เช่นที่กรุงเยรูซาเล็มก็มีการใช้กำยานด้วย (จากบันทึกการแสวงบุญในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ของ Egeria 24:10) ความหมายของกำยาน กฎทั่วไปสำหรับมิสซาตามจารีตโรมัน ข้อ 276 ได้ให้ความหมายของการถวายกำยานว่า เป็นการ แสดงความเคารพและหมายถึงคำภาวนา ดังที่มีกล่าวในพระคัมภีร์ “ขอให้คำภาวนาของข้าพเจ้าเป็นดั่งกำยานเฉพาะพระพักตร์พระองค์” (สดด 140:2) “ทูตสวรรค์อีกองค์หนึ่งถือถาดทองคำสำหรับเผากำยานถวายมายืนอยู่หน้าพระแท่นบูชา ทูตสวรรค์ องค์นี้ได้รับกำยานมา เพื่อถวายร่วมกับคำอธิษฐานภาวนาของผู้ศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายบนพระแท่นทองคำ ซึ่งอยู่หน้าพระบัลลังก์ ควันของกำยานจากมือของทูตสวรรค์พร้อมกับคำอธิษฐานภาวนาของบรรดาผู้ศักดิ์สิทธิ์ ลอยขึ้นไปเฉพาะพระพักตร์ของพระเจ้า” (วว 8:3-4) นอกจากนั้นกลิ่นหอมของกำยานที่เผา ยังสร้างบรรยากาศแห่งความศักดิ์สิทธิ์ ความสง่างามและบรรยากาศแห่งการฉลองในพิธีกรรม การใช้กำยานในพิธีมิสซา กฎทั่วไปสำหรับมิสซาตามจารีตโรมัน ข้อ 276 กล่าวว่า “อาจใช้กำยานได้ตามความสมัครใจในการถวายบูชามิสซาแบบใด ๆ ก็ได้” 1.ขณะที่ถือหม้อไฟใสกำยานเดินเป็นขบวนแห่เข้ามาในวัดและเมื่อเริ่มมิสซา ถวายกำยานแก่ไม้กางเขนและพระแท่นบูชา ให้ความห มายถึงการเคารพต่อสถานที่ ต่อบุคคล และต่อพระแท่นเอง นอกจากนั้นยังให้ความหมายถึงบรรยากาศของการฉลองและความศักดิ์สิทธิ์ตั้งแต่เริ่มพิธีกรรม 2.การถวายกำยานแด่พระวรสาร เริ่มนำมาใช้ในพิธีกรรมตั้งแต่ศตวรรษที่ 11 เป็นเครื่องหมายถึงการถวายเกียรติ และคารวะต่อพระ คริสตเจ้าที่เรากำลังตั้งใจฟังพระดำรัสของพระองค์ 3.การถวายกำยานแก่เครื่องบูชา ได้แก่ แผ่นปังและถ้วยกาลิกษ์ที่วางไว้บนพระแท่น มีมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 9 เป็นเครื่องหมายว่า “การถวายบูชาและคำภาวนาของพระศาสนจักรขึ้นไปเฉพาะพระพักตร์พระเจ้า” ต่อจากนั้นพระสงฆ์ซึ่งมีหน้าที่ศักดิ์สิทธิ์และสัตบุรุษซึ่งมีศักดิ์ศรี เพราะได้รับศีลล้างบาป อาจรับการถวายกำยานจากสังฆานุกรหรือผู้ช่วยพิธีกรรม (กฎทั่วไปสำหรับมิสซาตามจารีตโรมัน ข้อ 75) นอกจากนี้ก ารถวายกำยานต่อพระสงฆ์และสัตบุรุษยังเป็นเครื่องหมายว่า ตัวบุคคลอันประกอบด้วยพระสงฆ์และสัตบุรุษรวมกันเข้าเป็นหนึ่งเดียวกันกับ “ของถวาย” บนพระแท่น คือ องค์พระคริสตเจ้า มอบถวายแด่พระบิดาเจ้า 4.การถวายกำยานแด่ศีลมหาสนิทขณะพระสงฆ์ชูแผ่นศีลและถ้วยกาลิกษ์ในภาคเสกศีล หมายถึงการถวายคารวะแด่องค์พระคริตเจ้าผู้ ประทับอยู่ในศีลมหาสนิท การปฏิบัตินี้มีมาตั้งแต่ในศตวรรษที่ 13 |