03 พฤษภาคม 2555

เล่าเรื่องพระเยซู ~ 4 ผู้ที่ทุกคนเสาะหา

3453.gif
4
ผู้ที่ทุกคนเสาะหา

       ลังจากการเทศน์ของยอห์นบับติสต์ที่ว่า “ในท่ามกลางพวกท่าน มีผู้หนึ่งที่ท่านยังไม่รู้จักและเป็นผู้โปรดศีลล้างด้วยพระจิต” พระองค์ทรงเป็นพระเมสิยาห์ผู้ที่ประชาชนรอคอย ทุกคนกำลังเสาะหาพระองค์ อยากจะพบพระองค์ พูดคุย และรู้จักพระองค์
       พวกเขาไม่ตามหาพระองค์เพราะพระองค์ทรงอยู่นอกกฎหมายหรือเป็นอันตราย แต่เสาะหาพระองค์เพราะพระองค์ทรงเป็นผู้นำข่าวดีจากพระเจ้ามาให้มนุษย์
       มีหลายคนที่พบกับพระองค์ รู้สึกประทับใจในการเป็นพระอาจารย์และพระเมสิยาห์ของพระองค์ พวกเขารักพระองค์ ติดตามพระองค์ นบนอบพระองค์ และกลายเป็นศิษย์ของพระองค์
       คำว่า “ศิษย์” บ่งบอกถึงบุคคล ทั้งชายและหญิง ที่ประสงค์จะเรียนรู้วิธีดำเนินชีวิตแบบพระองค์ ฟังพระองค์เผยถึงพระบิดา มุ่งหาและสนใจคุณค่าเดียวกันกับพระองค์ เดินในเส้นทางเดียวกับพระองค์ ร่วมรับผิดชอบ ภารกิจ และชีวิตของพระองค์  หรือจะพูดสั้นๆ เป็นอันหนึ่งอันเดียวกับพระองค์
       การพบปะระหว่างพระอาจารย์และศิษย์เกิดขึ้นเป็นธรรมชาติ ไม่มีการจัดฉาก เพราะเป็นการพบปะในส่วนลึกแห่งดวงใจ
       มีหลายคนที่พระเยซูเจ้าทรงเชื้อเชิญให้ติดตามพระองค์ด้วยท่าทีแห่งอำนาจของพระเมสิยาห์อย่างไม่มีเงื่อนไข อีกหลายคนได้รับคำเชื้อเชิญให้ติดตามพระองค์โดยทางศิษย์ของพระองค์หรือในรูปแบบลึกลับ  แต่ทุกคนก็ได้รับการรับรองจากพระคริสต์เสมอ
       ในวันเหล่านั้น มีกลุ่มศิษย์ที่รวมตัวกัน พวกเขาเชื่อในพระอาจารย์ผู้ถูกส่งมาจากพระบิดา พวกเขาเห็นอัศจรรย์ที่พระองค์ทรงกระทำและพวกเขาหวังในความรอดจากพระองค์
       ให้เราอ่านเหตุการณ์เหล่านี้ •

พระภารกิจของพระเยซูเจ้า
สัปดาห์แรก ยอห์นเป็นพยาน
       ยอห์นเป็นพยานดังนี้ เมื่อชาวยิว จากกรุงเยรูซาเล็มส่งบรรดาสมณะและชาวเลวีไปถามยอห์นว่า "ท่านเป็นใครเล่า"  เขามิได้ปิดบังความจริง แต่ยืนยันว่า
       "ข้าพเจ้าไม่ใช่พระคริสต์"
       ดังนั้น เขาเหล่านั้นจึงถามว่า
       "ถ้าเช่นนั้น ท่านเป็นใคร เป็นเอลียาห์หรือ"
       ยอห์นตอบว่า
       "ข้าพเจ้าไม่ใช่เอลียาห์"
       "ท่านเป็นประกาศกหรือ"
       เขาตอบอีกว่า
       "ไม่ใช่"  
       เขาเหล่านั้นจึงถามว่า
       "ท่านเป็นใครเราจะได้นำคำตอบไปให้ผู้ที่ส่งเรามา ท่านพูดถึงตนเองอย่างไรเล่า"
       ยอห์นตอบว่า
       " ข้าพเจ้าเป็นเสียงของผู้ที่ร้องตะโกนในถิ่นทุรกันดารว่าจงทำทางขององค์พระผู้เป็นเจ้าให้ตรงเถิด"ดังที่ประกาศกอิสยาห์ได้กล่าวไว้
       ผู้ที่ถูกส่งไปถามนั้นเป็นชาวฟาริสี  เขาถามยอห์นอีกว่า
       "ทำไมท่านจึงทำพิธีล้าง ถ้าท่านไม่ใช่พระคริสต์ ไม่ใช่เอลียาห์ และไม่ใช่ประกาศก"
       ยอห์นตอบพวกเขาว่า
      "ข้าพเจ้าใช้น้ำทำพิธีล้างให้ท่านทั้งหลาย แต่มีผู้หนึ่งประทับอยู่ในหมู่ท่าน เป็นผู้ที่ท่านไม่รู้จัก   ผู้นั้นมาภายหลังข้าพเจ้า ข้าพเจ้าไม่สมควรแม้แต่จะแก้สายรัดรองเท้าของเขา"
       เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่หมู่บ้านเบธานีอีกฟากหนึ่งของแม่น้ำจอร์แดน ซึ่งยอห์นกำลังทำพิธีล้างอยู่ (ยน1: 19-28)


       วันรุ่งขึ้น ยอห์นเห็นพระเยซูเจ้าเสด็จมาหาตน จึงกล่าวว่า "นี่คือลูกแกะของพระเจ้า ผู้ทรงลบล้างบาปของโลก  ผู้นี้คือผู้ที่ข้าพเจ้าเคยพูดถึงว่า 'บุรุษผู้หนึ่งมาภายหลังข้าพเจ้า แต่นำหน้าข้าพเจ้า  เพราะอยู่มาก่อนข้าพเจ้า'  ข้าพเจ้าไม่รู้จักพระองค์ แต่ข้าพเจ้าถูกส่งมาให้ทำพิธีล้าง เพื่อทำให้พระองค์เป็นที่รู้จักแก่อิสราเอล"  
       ยอห์นยังยืนยันอีกว่า "ข้าพเจ้าเห็นพระจิตเจ้าเสด็จลงมาจากสวรรค์เหมือนนกพิราบ และทรงอยู่เหนือพระองค์  ข้าพเจ้าไม่รู้จักพระองค์ แต่ผู้ที่ทรงส่งข้าพเจ้ามาใช้น้ำทำพิธีล้าง ตรัสแก่ข้าพเจ้าว่า 'เจ้าเห็นพระจิตเจ้าเสด็จลงมาประทับอยู่เหนือผู้ใด ผู้นั้นคือผู้ที่ทำพิธีล้างเดชะพระจิตเจ้า'  ข้าพเจ้าเห็น และเป็นพยานยืนยันว่า ท่านผู้นี้เป็นพระบุตรของพระเจ้า" (ยอห์น1: 29-34)



ศิษย์กลุ่มแรก
 
       วันรุ่งขึ้น ยอห์นกำลังยืนอยู่ที่นั่นกับศิษย์สองคน  เมื่อเห็นพระเยซูเจ้าเสด็จผ่านไป จึงพูดว่า
       "นี่คือลูกแกะของพระเจ้า"
       เมื่อศิษย์ทั้งสองคนได้ยินยอห์นพูดดังนี้จึงติดตามพระเยซูเจ้าไป  
       พระเยซูเจ้าทรงหันพระพักตร์มาทอดพระเนตรเห็นเขากำลังติดตามพระองค์ จึงตรัสถามว่า
       "ท่านต้องการสิ่งใด"
       เขาทูลตอบว่า
       "รับบี"  (แปลว่า พระอาจารย์) "พระองค์ทรงพำนักอยู่ที่ไหน"
       พระเยซูเจ้าตรัสว่า
       "มาดูซิ"
       เขาจึงไปดูเห็นที่ประทับของพระองค์ และพักอยู่กับพระองค์ในวันนั้น ขณะนั้นเป็นเวลาประมาณบ่ายสี่โมง
       อันดรูว์น้องชายของซีโมนเปโตรเป็นคนหนึ่งในสองคนที่ได้ยินคำพูดของยอห์น และตามพระเยซูเจ้าไป อันดรูว์พบซีโมนพี่ชายเป็นคนแรก จึงพูดว่า
       "เราพบพระเมสสิยาห์แล้ว" (พระเมสสิยาห์ หรือพระคริสตเจ้า แปลว่า ผู้รับเจิม)
       เขาพาพี่ชายไปเฝ้าพระเยซูเจ้าพระเยซูเจ้าทอดพระเนตรเห็นเขา จึงตรัสว่า
       "ท่านคือซีโมน บุตรของยอห์น ท่านจะมีชื่อว่า เคฟาส" (แปลว่า "เปโตร" หรือ "ศิลา")
       วันรุ่งขึ้น พระเยซูเจ้าทรงตัดสินพระทัยเสด็จไปยังแคว้นกาลิลี ทรงพบฟิลิปและตรัสกับเขาว่า
       "จงตามเรามาเถิด"
       ฟิลิปมาจากเมืองเบธไซดาเช่นเดียวกับอันดรูว์และเปโตร
       ฟิลิปพบนาธานาเอล และบอกเขาว่า
       "เราพบผู้ที่โมเสสและบรรดาประกาศกเขียนไว้ในพระคัมภีร์แล้ว ผู้นั้นคือพระเยซู บุตรของโยเซฟ ชาวนาซาเร็ธ"
       นาธานาเอลจึงพูดกับฟิลิปว่า
       "จะมีอะไรดีมาจากนาซาเร็ธได้รึ"
       ฟิลิปตอบว่า
       "มาดูซิ"
       พระเยซูเจ้าทอดพระเนตรเห็นนาธานาเอลเข้ามาเฝ้าจึงตรัสถึงเขาว่า
       "นี่คือชาวอิสราเอลแท้ เป็นคนไม่มีมารยา"
       นาธานาเอลทูลถามว่า
       "พระองค์ทรงรู้จักข้าพเจ้าได้อย่างไร"
       พระเยซูเจ้าตรัสตอบว่า
       "ก่อนที่ฟิลิปจะเรียกท่าน เราเห็นท่านอยู่ใต้ต้นมะเดื่อ"  
       นาธานาเอลทูลตอบว่า
       "รับบีพระองค์เป็นพระบุตรของพระเจ้า พระองค์ทรงเป็นกษัตริย์ของชนชาติอิสราเอล"
       พระเยซูเจ้าตรัสว่า
       "ท่านเชื่อเพราะเราพูดว่า เราเห็นท่านอยู่ใต้ต้นมะเดื่อหรือ ท่านจะเห็นเหตุการณ์ที่ยิ่งใหญ่กว่านั้นอีก"
       แล้วพระองค์ตรัสเสริมว่า
       "เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า ท่านจะเห็นท้องฟ้าเปิด และจะเห็นบรรดาทูตสวรรค์ของพระเจ้าขึ้นลงรับใช้บุตรแห่งมนุษย์" ยอห์น1: 35-41)

 งานสมรสที่หมู่บ้านคานา 

       สามวันต่อมา มีงานสมรสที่หมู่บ้านคานาในแคว้นกาลิลี พระมารดาของพระเยซูเจ้าทรงอยู่ในงานนั้น พระเยซูเจ้าทรงได้รับเชิญพร้อมกับบรรดาศิษย์มาในงานนั้นด้วย  
        เมื่อเหล้าองุ่นหมด พระมารดาของพระเยซูเจ้าจึงมาทูลพระองค์ว่า
        "เขาไม่มีเหล้าองุ่นแล้ว"
        พระเยซูเจ้าตรัสว่า
        "แม่ครับ แม่ต้องการอะไรจากลูก เวลาของลูก ยังมาไม่ถึง"
        พระมารดาของพระเยซูเจ้าจึงกล่าวแก่บรรดาคนรับใช้ว่า  "เขาบอกให้ท่านทำอะไร ก็จงทำเถิด"  
       ที่นั่นมีโอ่งหินตั้งอยู่หกใบ เพื่อใช้ชำระตามธรรมเนียมของชาวยิว แต่ละใบจุน้ำได้ประมาณหนึ่งร้อยลิตร  พระเยซูเจ้าตรัสกับบรรดาคนรับใช้ว่า
       "จงตักน้ำใส่โอ่งให้เต็ม"
        เขาก็ตักน้ำใส่จนเต็มถึงขอบ  แล้วพระองค์ทรงสั่งเขาอีกว่า
        "จงตักไปให้ผู้จัดงานเลี้ยงเถิด"
        เขาก็ตักไปให้
       ผู้จัดงานเลี้ยงได้ชิมน้ำที่เปลี่ยนเป็นเหล้าองุ่นแล้วไม่รู้ว่าเหล้านี้มาจากไหน แต่คนรับใช้ที่ตักน้ำรู้ดี ผู้จัดงานเลี้ยงจึงเรียกเจ้าบ่าวมา พูดว่า "ใคร ๆ เขานำเหล้าองุ่นอย่างดีมาให้ก่อน เมื่อบรรดาแขกดื่มมากแล้ว จึงนำเหล้าองุ่นอย่างรองมาให้ แต่ท่านเก็บเหล้าอย่างดีไว้จนถึงบัดนี้"

       พระเยซูเจ้าทรงกระทำเครื่องหมายอัศจรรย์ ครั้งแรกนี้ที่หมู่บ้านคานา แคว้นกาลิลี พระองค์ทรงแสดงพระสิริรุ่งโรจน์ของพระองค์ และบรรดาศิษย์เชื่อในพระองค์  หลังจากนี้ พระเยซูเจ้าเสด็จไปเมืองคาเปอรนาอุมพร้อมกับพระมารดาญาติพี่น้องและบรรดาศิษย์ ทุกคนพำนักอยู่ที่นั่นเพียงสองสามวัน (ยอห์น2: 1-12)

 



3 พฤษภาคม 2555 พระวรสาร ยน 14:6-14 คำปราศรัยอำลา





 zwani.com myspace graphic comments 

3 พฤษภาคม 2555
พระวรสาร ยน 14:6-14 คำปราศรัยอำลา

          เวลานั้น พระเยซูเจ้าตรัสกับโธมัสว่า "เราเป็นหนทาง ความจริง และชีวิต ไม่มีใครไปเฝ้าพระบิดาได้นอกจากผ่านทางเรา
          ถ้าท่านทั้งหลายรู้จักเรา ท่านก็รู้จักพระบิดาของเราด้วย บัดนี้ ท่านก็รู้จักพระบิดา และเห็นพระองค์แล้ว"
          ฟิลิปทูลว่า “พระเจ้าข้า โปรดทำให้พวกเราได้เห็นพระบิดาเถิด เท่านี้ก็พอแล้ว” พระเยซูเจ้าตรัสว่า "ฟิลิปเอ๋ย เราอยู่กับท่านมานานเพียงนี้แล้ว ท่านยังไม่รู้จักเราอีกหรือ" ‘ผู้ที่เห็นเรา ก็เห็นพระบิดาด้วย ท่านพูดได้อย่างไรว่า “โปรดทำให้พวกเราได้เห็นพระบิดาเถิด” ท่านไม่เชื่อหรือว่า เราดำรงอยู่ในพระบิดา และพระบิดาทรงดำรงอยู่ในเรา วาจาที่เราบอกกับท่านทั้งหลายนี้ เรามิได้พูดตามใจของเรา แต่พระบิดา ผู้สถิตในเรา ทรงกระทำกิจการของพระองค์ ท่านทั้งหลายจงเชื่อเราเถิดว่า เราดำรงอยู่ในพระบิดา และพระบิดาก็ทรงดำรงอยู่ในเรา หรืออย่างน้อยท่านทั้งหลายจงเชื่อเพราะกิจการเหล่านี้เถิด
          เราบอกความจริงกับท่านทั้งหลายว่า ผู้ที่เชื่อในเรา ก็จะทำกิจการที่เรากำลังทำอยู่ด้วย และจะทำกิจการที่ใหญ่กว่านั้นอีก เพราะเรากำลังจะไปเฝ้าพระบิดา สิ่งใดที่ท่านทั้งหลายขอในนามของเรา เราจะทำสิ่งนั้น เพื่อพระบิดาจะได้รับพระสิริรุ่งโรจน์ในพระบุตร
ถ้าท่านทั้งหลายขอสิ่งใดในนามของเรา เราจะทำให้"


4thirsty_thursday.gif

ผู้กลับใจ