26 เมษายน 2555

เล่าเรื่องพระเยซู 1. ประกาศกกล่าวถึงพระเยซูเจ้า




3453.gif

1.
ประกาศกกล่าวถึงพระเยซูเจ้า

       เรื่องของพระเยซูเจ้าเริ่มต้นในสวนสวรรค์ วันที่พระเจ้าทรงตรัสต่อหน้าอาดัมและเอวา ทรงกล่าวโทษงูผู้ล่อลวงและยืนยันว่า บุตรของสตรีผู้หนึ่งจะประกาศสงครามและจะมีชัยชนะ อีกทั้งจะเหยียบหัวงูให้บี้แบน

        
ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ลูกหลานของอาดัมและเอวาเริ่มรอคอยสตรีผู้นั้นที่บุตรชายจะลบล้างบาปของโลกและจะไถ่กู้ประชากรผู้เป็นบุตรพระเจ้า

       
ผู้เขียนพระวรสารลูกาและมัทธิวได้ย้อนรอยกลับไปสู่บรรพบุรุษของพระเยซูเจ้า เพราะต้องการจะโยงพระมหาไถ่ที่พระเจ้าทรงสัญญาไว้เข้าสู่ประวัติศาสตร์มนุษย์และยืนยัน DNA ของพระเยซูเจ้าว่าทรงเป็นมนุษย์แท้
 
        นอกนั้น บรรดาประกาศกของพระเจ้าประกาศถึงการเสด็จมาของสตรีผู้นั้นและพระบุตรพระเจ้าในพระนามของพระเจ้า

 
       พระคัมภีร์ประกอบด้วยหนังสือศักดิ์สิทธิ์ที่ได้รับการดลใจจากพระเจ้าจำนวน 73 เล่ม มีการส่งต่อมาถึงเราผ่านทางนิมิต ความฝัน ประสบการณ์ชีวิต ความรู้แจ้ง ในเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์และสังคม ในบุคลิกที่ดำเนินชีวิตแห่งการรอคอย พร้อมกับถ่ายทอดภาพลักษณ์ของพระเยซูเจ้าตั้งแต่ทรงบังเกิดถึงสิ้นพระชนม์ อีกทั้งการกระทำและท่าทีของพระองค์ ให้ความสว่างแก่สติปัญญา รักษาดวงใจที่แข็งกระด้างเป็นหิน ปลุกน้ำใจดีในการทำความดี ต่อต้านความชั่ว ปลดปล่อยผู้ถูกจองจำและเป็นทาสทุกรูปแบบ

       พวกเขาได้เห็นล่วงหน้าถึงชีวิตของพระองค์และมีความประทับใจมาโดยตลอด กระทั่งนักบุญยอห์นผู้โปรดศีลล้างได้ร้องประกาศถึงการเสด็จมาของพระเมสิยาห์ อันเป็นจุดเริ่มต้นแห่งพระวรสารของพระเยซูเจ้า .



ปฐมวัยของยอห์น
       ในัชสมัยของกษัตริย์เฮโรดผู้ปกครองแคว้นยูเดีย สมณะผู้หนึ่งชื่อเศคาริยาห์  ประจำเวรในหมวดของอาบียาห์ มีภรรยาชื่อเอลีซาเบธ จากตระกูลสมณะอาโรน ทั้งสองคนเป็นผู้ชอบธรรมเฉพาะพระพักตร์พระเจ้า ปฏิบัติตามบทบัญญัติและข้อกำหนดทุกข้อของพระเจ้าโดยไม่มีข้อตำหนิ 
       แต่สามีภรรยาคู่นี้ไม่มีบุตร เพราะนางเอลีซาเบธเป็นหมัน และทั้งสองคนชรามากแล้ว
       วันหนึ่ง เศคาริยาห์กำลังปฏิบัติหน้าที่สมณะเฉพาะพระพักตร์ตามเวรในหมวดของตน  9ตามธรรมเนียมของสมณะ เขาจับฉลากได้หน้าที่เข้าไปในพระวิหารของพระเจ้าเพื่อถวายกำยาน ขณะที่มีการถวายกำยาน ประชาชนที่มาชุมนุมกันต่างอธิษฐานภาวนาอยู่ภายนอก11ทันใดนั้น ทูตสวรรค์องค์หนึ่งของพระเจ้าปรากฏองค์ยืนอยู่เบื้องขวาของพระแท่นถวายกำยาน 
       เมื่อเศคาริยาห์เห็นก็รู้สึกวุ่นวายใจและมีความกลัวอย่างมาก 
       แต่ทูตสวรรค์กล่าวแก่เขาว่า
       “เศคาริยาห์ อย่ากลัวเลย พระเจ้าทรงฟังคำอธิษฐานของท่านแล้ว เอลีซาเบธภรรยาของท่านจะให้กำเนิดบุตรชายคนหนึ่ง ท่านจะตั้งชื่อเขาว่ายอห์น  14ท่านจะมีความชื่นชมยินดีและคนจำนวนมากจะยินดี ที่เขาเกิดมา เพราะว่าเขาจะเป็นผู้ยิ่งใหญ่เฉพาะพระพักตร์พระเจ้า เขาจะไม่ดื่มเหล้าองุ่นหรือสุราเมรัยเลย เขาจะรับพระจิตเจ้า เต็มเปี่ยมตั้งแต่อยู่ในครรภ์ของมารดา เขาจะนำบุตรหลานของอิสราเอลจำนวนมากกลับมายังองค์พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของเรา  เขาจะมีจิตใจและพลังของประกาศกเอลียาห์ มาเตรียมรับการเสด็จมาของพระองค์  เพื่อทำให้บิดาคืนดีกับบุตรและทำให้ผู้ไม่เชื่อฟังกลับมีจิตสำนึกของผู้ชอบธรรม เป็นการเตรียมประชากรให้พร้อมที่จะรับเสด็จองค์พระผู้เป็นเจ้า” 
       เศคาริยาห์จึงถามทูตสวรรค์ว่า 
       “ข้าพเจ้าจะแน่ใจเรื่องนี้ได้อย่างไร
 ข้าพเจ้าชราแล้ว และภรรยาของข้าพเจ้าก็อายุมากแล้วด้วย”
 
       ทูตสวรรค์จึงตอบว่า
        “ข้าพเจ้าคือกาเบรียล ซึ่งเฝ้าอยู่เฉพาะพระพักตร์พระเจ้า พระองค์ทรงใช้ข้าพเจ้ามาพูดกับท่านและนำข่าวดีนี้มาแจ้งให้ท่านทราบ  20แต่ท่านไม่เชื่อคำของข้าพเจ้า ซึ่งจะเป็นจริงเมื่อถึงเวลากำหนด  ดังนั้น ท่านจะเป็นใบ้จนถึงวันที่เหตุการณ์นี้จะเป็นจริง” 
       ขณะนั้น ประชาชนกำลังคอยเศคาริยาห์อยู่ รู้สึกประหลาดใจที่เขาอยู่ในพระวิหารนาน เมื่อเขาออกมาและพูดไม่ได้ ประชาชนจึงเข้าใจว่าเขาเห็นนิมิตในพระวิหาร  เขาทำได้เพียงแสดงท่าทาง แต่พูดไม่ได้

       เมื่อหมดวาระทำหน้าที่ในพระวิหารแล้ว เศคาริยาห์ก็กลับไปบ้าน ต่อมาไม่นานนางเอลีซาเบธภรรยาของเขาก็ตั้งครรภ์ นางเก็บตัวอยู่ในบ้านเป็นเวลาห้าเดือนนางกล่าวว่า “พระเจ้าทรงทำเช่นนี้เพื่อข้าพเจ้า  บัดนี้พระองค์พอพระทัยช่วยข้าพเจ้าให้พ้นจากความอับอายที่ข้าพเจ้ามีต่อหน้าคนทั้งหลายแล้ว” (ลก 1,5-23)
----------------------------------------------------------------------------------
ทูตสวรรค์แจ้งข่าวการประสูติของพระเยซูเจ้า



        เมื่อนางเอลีซาเบธตั้งครรภ์ได้หกเดือนแล้ว พระเจ้าทรงส่งทูตสวรรค์กาเบรียลมายังเมืองหนึ่งในแคว้นกาลิลีชื่อเมืองนาซาเร็ธ
           มาพบหญิงพรหมจารีคนหนึ่งซึ่งหมั้นอยู่กับชายชื่อโยเซฟ ในราชวงศ์ของกษัตริย์ดาวิด หญิงพรหมจารีผู้นั้นชื่อมารีย์ทูตสวรรค์เข้าในบ้านกล่าวกับพระนางว่า
        “จงยินดีเถิด ท่านผู้ที่พระเจ้าโปรดปราน พระเจ้าสถิตอยู่กับท่าน” 
           เมื่อทรงได้ยินถ้อยคำนี้ พระนางมารีย์ทรงวุ่นวายพระทัยมากทรงถามพระองค์เองว่า คำทักทายนี้หมายความว่ากระไร แต่ทูตสวรรค์กล่าวแก่พระนางว่า
        “มารีย์ อย่ากลัวเลย ท่านเป็นผู้ที่พระเจ้าโปรดปราน 
           ท่านจะตั้งครรภ์และให้กำเนิดบุตรชายคนหนึ่ง ท่านจะตั้งชื่อเขาว่าเยซู เขาจะเป็นผู้ยิ่งใหญ่และพระเจ้าผู้สูงสุดจะทรงเรียกเขาเป็นบุตรของพระองค์ พระเจ้าจะประทานพระที่นั่งของกษัตริย์ดาวิดบรรพบุรุษให้แก่เขา เขาจะปกครองวงศ์ตระกูลของยาโคบตลอดไปและพระอาณาจักรของเขาจะไม่สิ้นสุดเลย”
           พระนางมารีย์จึงทรงถามทูตสวรรค์ว่า “เหตุการณ์นี้จะเป็นไปได้อย่างไรเพราะข้าพเจ้าตั้งใจจะเป็นพรหมจารี” 
           ทูตสวรรค์ตอบว่า
        “พระจิตเจ้าจะเสด็จลงมาเหนือท่านและพระอานุภาพของพระผู้สูงสุดจะแผ่เงาปกคลุมท่าน เพราะฉะนั้น บุตรที่เกิดมาจะเป็นผู้ศักดิ์สิทธิ์และจะรับนามว่าบุตรของพระเจ้า ดูซิ เอลีซาเบธ ญาติของท่าน ทั้ง ๆ ที่ชราแล้ว ก็ยังตั้งครรภ์บุตรชาย ใครๆ คิดว่านางเป็นหมัน แต่นางก็ตั้งครรภ์ได้หกเดือนแล้ว เพราะไม่มีสิ่งใดที่พระเจ้าจะทรงกระทำไม่ได้”
       พระนางมารีย์จึงตรัสว่า 
        “ข้าพเจ้าเป็นผู้รับใช้ของพระเจ้าขอให้เป็นไปกับข้าพเจ้าตามวาจาของท่านเถิด”
        
แล้วทูตสวรรค์ก็จากพระนางไป (ลก 1,26-38)
-------------------------------------------------
โยเซฟรับพระเยซูเจ้าเป็นบุตรบุญธรรม 
       เรื่องราวการประสูติของพระเยซูคริสตเจ้าเป็นดังนี้ พระนางมารีย์พระมารดาของพระองค์หมั้นกับโยเซฟ แต่ก่อนที่ท่านทั้งสองจะครองชีวิตร่วมกัน  ปรากฏว่าพระนางตั้งครรภ์แล้วเดชะพระจิตเจ้า โยเซฟคู่หมั้นของพระนางเป็นผู้ชอบธรรมไม่ต้องการฟ้องหย่าพระนางอย่างเปิดเผย จึงคิดถอนหมั้นอย่างเงียบๆ
          ขณะที่โยเซฟกำลังคิดถึงเรื่องนี้อยู่ ทูตสวรรค์ขององค์พระผู้เป็นเจ้า ก็มาเข้าฝัน กล่าวว่า “โยเซฟโอรสกษัตริย์ดาวิด อย่ากลัวที่จะรับมารีย์มาเป็นภรรยาของท่านเลย  เพราะเด็กที่ปฏิสนธิ์ในครรภ์ของนางนั้นมาจากพระจิตเจ้านางจะให้กำเนิดบุตรชาย ท่านจงตั้งชื่อบุตรนั้นว่าเยซู เพราะเขาจะช่วยประชากรของเขาให้รอดพ้นจากบาป” 
          เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเพื่อพระดำรัสขององค์พระผู้เป็นเจ้าที่ตรัสผ่านประกาศก จะเป็นความจริงว่า 
          หญิงพรหมจารีจะตั้งครรภ์ และจะคลอดบุตรชาย     ซึ่งจะได้รับนามว่า“อิมมานูเอล”แปลว่า"พระเจ้าสถิตกับเรา”  
          เมื่อโยเซฟตื่นขึ้น เขาก็ทำตามที่ทูตสวรรค์ขององค์พระผู้เป็นเจ้าสั่งไว้ คือรับภรรยามาอยู่ด้วย(มธ1 18-24)

-------------------------------------------------
พระนางมารีย์เสด็จเยี่ยมนางเอลีซาเบธ

       หลังจากนั้นไม่นาน พระนางมารีย์ทรงรีบออกเดินทางไปยังเมืองหนึ่งในแถบภูเขาแคว้นยูเดีย พระนางเสด็จเข้าไปในบ้านของเศคาริยาห์และทรงทักทายนางเอลีซาเบธ เมื่อนางเอลีซาเบธได้ยินคำทักทายของพระนางมารีย์ บุตรในครรภ์ก็ดิ้น  นางเอลีซาเบธได้รับพระจิตเจ้าเต็มเปี่ยม ร้องเสียงดังว่า “เธอได้รับพระพรยิ่งกว่าหญิงใด ๆ และลูกของเธอก็ได้รับพระพรด้วย ทำไมหนอพระมารดาขององค์พระผู้เป็นเจ้า จึงเสด็จมาเยี่ยมข้าพเจ้า
          เมื่อฉันได้ยินคำทักทายของเธอ ลูกในครรภ์ของฉันก็ดิ้นด้วยความยินดี เธอเป็นสุขที่เชื่อว่า พระวาจาที่พระเจ้าตรัสแก่เธอไว้จะเป็นจริง” (ลก 1,39-45)

 บทเพลงสรรเสริญของพระนางมารีย์  
  พระนางมารีย์ ตรัสว่า
  วิญญาณข้าพเจ้าประกาศความยิ่งใหญ่ของพระเจ้า
  จิตใจของข้าพเจ้าชื่นชมยินดีในพระเจ้า
  พระผู้กอบกู้ข้าพเจ้า
  เพราะพระองค์ทอดพระเนตรผู้รับใช้ต่ำต้อยของพระองค์
  ตั้งแต่นี้ไปชนทุกสมัยจะกล่าวว่าข้าพเจ้าเป็นสุข
  พระผู้ทรงสรรพานุภาพทรงกระทำกิจการยิ่งใหญ่
  สำหรับข้าพเจ้าพระนามของพระองค์ศักดิ์สิทธิ์
  พระกรุณาต่อผู้ยำเกรงพระองค์แผ่ไปตลอดทุกยุคทุกสมัย
  พระองค์ทรงยกพระกรแสดงพระอานุภาพ
  ทรงขับไล่ผู้มีใจมักใหญ่ใฝ่สูงให้กระจัดกระจายไป
  ทรงคว่ำผู้ทรงอำนาจจากบัลลังก์
  และทรงยกย่องผู้ต่ำต้อยให้สูงขึ้น
  พระองค์ประทานสิ่งดีทั้งหลายแก่ผู้อดอยาก
  ทรงส่งเศรษฐีให้กลับไปมือเปล่า
  พระองค์ทรงช่วยเหลืออิสราเอล ผู้รับใช้พระองค์
  โดยทรงระลึกถึงพระกรุณา
  ดังที่ทรงสัญญาไว้แก่บรรพบุรุษของเรา
  แก่อับราฮัมและบุตรหลานตลอดไป
  พระนางมารีย์ประทับอยู่กับนางเอลีซาเบธ
  ประมาณสามเดือนจึงเสด็จกลับ
  (ลก 1,46-56)
------------------------------------------------------------------------------
การเกิดของยอห์นผู้ทำพิธีล้าง
       
       เมื่อครบกำหนดคลอดนางเอลีซาเบธให้กำเนิดบุตรชายคนหนึ่ง เพื่อนบ้านและบรรดาญาติรู้ว่าพระเจ้าทรงแสดงพระกรุณายิ่งใหญ่ต่อนาง จึงมาร่วมยินดีกับนาง

ยอห์นผู้ทำพิธีล้างเข้าสุหนัต 

       เมื่อเด็กเกิดได้แปดวัน เพื่อนบ้านและญาติพี่น้องมาทำพิธีสุหนัตให้  เขาต้องการเรียก เด็กว่าเศคาริยาห์ตามชื่อบิดา  60แต่มารดาของเด็กค้านว่า
        “ไม่ได้ เขาจะต้องชื่อยอห์น” 
       คนเหล่านั้นจึงพูดกับนางว่า
        “ท่านไม่มีญาติคนใดมีชื่อนี้” 
       เขาเหล่านั้นจึงส่งสัญญาณ ถามบิดาของเด็กว่าต้องการให้บุตรชื่ออะไร 
       เศคาริยาห์ขอกระดานแผ่นหนึ่งแล้วเขียนว่า “เขาชื่อยอห์น”
       ทุกคนต่างประหลาดใจ ทันใดนั้น เศคาริยาห์ก็กลับพูดได้อีก เขาจึงกล่าวถวายพระพรพระเจ้า เพื่อนบ้านทุกคนต่างรู้สึกกลัว และเรื่องทั้งหมดนี้ได้เล่าลือกันไปทั่วแถบภูเขาของแคว้นยูเดีย ทุกคนที่ได้ยินเรื่องนี้ต่างก็แปลกใจและถามกันว่า “แล้วเด็กคนนี้จะเป็นอะไร” เพราะพระหัตถ์ของพระเจ้าอยู่กับเขา (ลก 1,57-66)
------------------------------------------------------------------------------
บทถวายพระพรของเศคาริยาห์ 
       เศคาริยาห์ ผู้เป็นบิดาได้รับพระจิตเจ้าเต็มเปี่ยม จึงกล่าวพยากรณ์ดังนี้
       ขอถวายพระพรแด่องค์พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าแห่งอิสราเอลเพราะพระองค์เสด็จเยี่ยม และทรงกอบกู้ประชากรของพระองค์
       พระองค์ทรงปลุกพระผู้กอบกู้ผู้ทรงอำนาจ ขึ้นมาจากราชวงศ์ของกษัตริย์ดาวิดผู้รับใช้พระองค์
       ตามที่ทรงสัญญาไว้โดยปากของบรรดาประกาศกผู้ศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์ตั้งแต่โบราณกาล
       ว่าจะให้เรารอดพ้นจากศัตรูจากเงื้อมมือของผู้ที่เกลียดชังเรา
       ทรงสัญญาว่าจะทรงแสดงพระกรุณาแก่บรรพบุรุษของเราทรงระลึกถึงพันธสัญญาศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์
        และคำปฏิญาณที่ทรงให้ไว้แก่อับราฮัม บรรพบุรุษของเรา
       ว่าจะทรงช่วยเราให้พ้นจากเงื้อมมือของศัตรูเพื่อรับใช้พระองค์โดยปราศจากความหวาดกลัวใด ๆ
       ให้เราเป็นผู้ศักดิ์สิทธิ์และชอบธรรมเฉพาะพระพักตร์ของพระองค์ตลอดชีวิตของเรา
       ส่วนเจ้า ทารกเอ๋ยเจ้าจะได้ชื่อว่าเป็นประกาศกของพระผู้สูงสุดเจ้าจะนำหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้าเพื่อเตรียมทางสำหรับพระองค์
       เพื่อให้ประชากรของพระองค์รู้ว่าเขาจะรอดพ้น เพราะบาปของ
เขาได้รับการอภัย
       เดชะพระเมตตากรุณา ของพระเจ้าของเราพระองค์จะเสด็จมาเยี่ยมเราจากเบื้องบนดังแสงอรุโณทัย
       ส่องแสงสว่างให้ทุกคนที่อยู่ในความมืดและในเงาแห่งความตายเพื่อจะนำเท้าของเราให้ดำเนินไปตามทางแห่งสันติสุข

ชีวิตซ่อนเร้นของยอห์นผู้ทำพิธีล้าง
 


      เด็กนั้นเจริญเติบโตขึ้น จิตใจของเขาเข้มแข็งขึ้นด้วย เขาอาศัยอยู่ในถิ่นทุรกันดารจนถึงวันที่เขาแสดงตนแก่ประชากรอิสราเอล (ลก 1,67-80)
------------------------------------------------------------------------------






วันพฤหัสบดีที่ 26 เมษายน 2012 พระวรสารนักบุญยอห์น ยน 6:44-51




 zwani.com myspace graphic comments 

วันพฤหัสบดีที่ 26 เมษายน 2012  
พระวรสารนักบุญยอห์น  ยน 6:44-51

         เวลานั้น พระเยซูเจ้าตรัสกับเขาว่า“ไม่มีใครมาหาเราได้ นอกจากพระบิดาผู้ทรงส่งเรามาจะทรงชักนำเขา และเราจะทำให้เขากลับคืนชีพในวันสุดท้าย มีเขียนไว้ในหนังสือของบรรดาประกาศกว่า ทุกคนจะได้รับคำสอนจากพระเจ้า ทุกคนที่ได้ฟังพระบิดา และเรียนรู้จากพระองค์ ก็มาหาเรา ไม่มีใครได้เห็นพระบิดา นอกจากผู้ที่มาจากพระเจ้า เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า ผู้ที่เชื่อในเรา ก็มีชีวิตนิรันดร เราเป็นปังแห่งชีวิต บรรพบุรุษของท่านทั้งหลายได้กินมานนาในถิ่นทุรกันดาร แล้วยังตาย แต่ปังที่ลงมาจากสวรรค์เป็นอย่างนี้ คือผู้ที่กินปังนี้แล้วจะไม่ตาย เราเป็นปังทรงชีวิต ที่ลงมาจากสวรรค์ ใครที่กินปังนี้จะมีชีวิตอยู่ตลอดไป และปังที่เราจะให้นี้ คือเนื้อของเรา เพื่อให้โลกมีชีวิต”

ข้อคิด
          ในบทอ่านที่หนึ่งให้ข้อคิดแก่เราว่า พระเจ้าใช้มนุษย์เป็นเครื่องมือนำความรอดไปสู่มนุษย์ ดังเช่นฟิลิปเป็นตัวอย่าง พระองค์ก็ทรงใช้เราเป็นเครื่องมือนำพระวาจาไปให้พี่น้องของเราเช่นกัน ขอให้เรามีความพร้อมเช่นเดียวกับฟิลิป

4thirsty_thursday.gif

วันพฤหัสบดีที่ 26 เมษายน 2012 สัปดาห์ที่ 3 เทศกาลปัสกา บทอ่านจากหนังสือกิจการอัครสาวก กจ 8:26-40





  4thursday18.gif  

วันพฤหัสบดีที่ 26 เมษายน 2012
สัปดาห์ที่ 3 เทศกาลปัสกา
บทอ่านจากหนังสือกิจการอัครสาวก 
กจ 8:26-40


         ในครั้งนั้น ทูตสวรรค์ขององค์พระผู้เป็นเจ้าสั่งฟิลิปว่า “จงลุกขึ้น และเดินไปทางทิศใต้ตามทางที่ลงมาจากกรุงเยรูซาเล็มไปยังเมืองกาซา ทางนั้นเป็นทางเปลี่ยว” ฟิลิปจึงลุกขึ้นออกเดินทาง ระหว่างทางเขาพบชาวเอธิโอเปียคนหนึ่ง เป็นขันที ข้าราชการของพระราชินีคานดาสีของชาวเอธิโอเปีย เป็นผู้ดูแลราชทรัพย์ทั้งหมดของพระนางและมานมัสการพระเจ้าที่กรุงเยรูซาเล็ม ขณะเดินทางกลับ เขานั่งในรถม้าและอ่านหนังสือของประกาศกอิสยาห์อยู่ พระจิตเจ้าตรัสสั่งฟิลิปว่า “จงตามรถคันนั้นไปให้ทัน” ฟิลิปวิ่งตามไป ได้ยินเขากำลังอ่านหนังสือของประกาศกอิสยาห์ จึงถามว่า “ท่านเข้าใจข้อความที่กำลังอ่านหรือ” ขันทีตอบว่า “ข้าพเจ้าจะเข้าใจได้อย่างไร ถ้าไม่มีใครอธิบาย” แล้วเขาก็เชิญฟิลิปขึ้นไปนั่งด้วย 
         ข้อความของพระคัมภีร์ที่เขากำลังอ่านอยู่นั้น มีดังนี้“เขาถูกนำไปฆ่าเหมือนแกะตัวหนึ่ง ลูกแกะไม่ออกเสียงเมื่ออยู่ต่อหน้าคนตัดขนแกะฉันใด เขาก็ไม่อ้าปากฉันนั้น เมื่อเขาถูกเหยียดหยาม เขาไม่ได้รับความยุติธรรมเลย ใครจะเล่าเรื่องเชื้อสายของเขาได้ เพราะชีวิตของเขาถูกยกไปจากแผ่นดินนี้แล้ว”
          ขันทีจึงถามฟิลิปว่า “โปรดบอกข้าพเจ้าเถิดว่า ประกาศกกล่าวเช่นนี้หมายถึงใคร หมายถึงตนเองหรือหมายถึงผู้อื่น” ฟิลิปจึงเริ่มประกาศข่าวดีเรื่องพระเยซูเจ้าให้เขาฟัง โดยอธิบายพระคัมภีร์เริ่มตั้งแต่ตอนนี้
         ขณะดินทางอยู่นั้น ทั้งสองคนมาถึงแหล่งน้ำแห่งหนึ่ง ขันทีกล่าวว่า “ดูซิ ที่นี่มีน้ำ มีอะไรขัดขวางมิให้ข้าพเจ้ารับศีลล้างบาปเล่า” เขาสั่งให้หยุดรถ ทั้งฟิลิปและขันทีลงไปในน้ำ ฟิลิปล้างบาปให้ขันที
เมื่อทั้งสองคนขึ้นจากน้ำแล้ว พระจิตขององค์พระผู้เป็นเจ้า ทรงนำฟิลิปไปที่อื่น ขันทีไม่เห็นฟิลิปอีก เดินทางต่อไปด้วยความยินดี ส่วนฟิลิปนั้นมีผู้พบที่เมืองอาโซทัส เขาเดินทางผ่านเมืองต่าง ๆ ประกาศข่าวดีจนมาถึงเมืองซีซารียา

4thursday12.gif

ผู้กลับใจ