สมโภชพระหฤทัยของพระเยซูเจ้่า
“มนุษย์ได้รับการไถ่แล้ว บัดนี้จงคิดและพิจารณาดูว่า พระองค์ผู้ทรงถูกตรึงบนกางเขนเพื่อท่านนั้น ช่างยิ่งใหญ่และทรงเกียรติน่าสรรเสริญนี่กระไร ความมรณาของพระองค์ ได้นำบรรดาผู้ตายกลับสู่ชีวิต แต่ขณะที่พระองค์สิ้นพระชนม์ ฟ้าสวรรค์และแผ่นดินจมลงในห้วงทุกข์ หินแตกกระจาย
เป็นเทวบัญชาที่ทรงอนุญาตให้ทหารคนหนึ่ง เปิดสีข้างอันศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์ด้วยหอก การเป็นดังนี้ก็เพื่อพระศาสนจักรจะได้ก่อตั้งขึ้น จากสีข้างของพระคริสตเจ้า ขณะเมื่อพระองค์สิ้นพระชนม์บนกางเขน เพื่อให้สำเร็จตามพระคัมภีร์ว่า “พวกเขาจะมองผู้ที่พวกเขาได้แทง” พระโลหิตและน้ำที่ไหลออกมาขณะนั้น เป็นค่าไถ่ความรอดของเรา ธารซึ่งไหลออกจากห้วงลึกแห่งดวงพระทัยพระเยซูเจ้า เหมือนดังจากลำธาร ประทานศีลศักดิ์สิทธิ์แก่พระศาสนจักร อำนาจที่จะโปรดชีวิตแห่งพระหรรษทาน สำหรับผู้ที่อยู่ในพระคริสตเจ้าแล้ว ธารน้ำนี้จะกลับเป็นแหล่งน้ำทรงชีวิต พลุ่งขึ้นสู่ชีวิตนิรันดร
ดังนั้นจงลุกขึ้นเถิด ผู้เป็นที่รักของพระคริสตเจ้า จงทำเช่นนกพิราบที่ทำรังอยู่ในโพรงหน้าผา เฝ้าดูทางเข้าเหมือนนกกระจอกได้พบบ้านของมันเหมือนนกเขา จงซ่อนลูกน้อย ซึ่งเป็นผลแห่งความรักบริสุทธิ์ของเธอไว้ที่นั่น จงแนบริมฝีปากของเธอที่ลำธาร “ดื่มน้ำจากบ่อของพระผู้ไถ่ของเธอ เพราะนี่เป็นต้นธารน้ำกลางสวนสวรรค์ แบ่งเป็นสี่ลำธาร” ไหลบ่าท่วมดวงใจที่ศรัทธารดทั่วพื้นแผ่นดินและทำให้อุดมสมบูรณ์
บรรดาผู้ที่อุทิศตนรับใช้พระเป็นเจ้าจึงวิ่งด้วยความปรารถนาร้อนรน ไปยังท่อธารแห่งชีวิต และแสงสว่างนี้ ท่านจะเป็นใครก็ตาม เชิญมาเถิด มาร้องหาพระองค์ ด้วยสิ้นสุดใจของท่าน “โอ ความงามอันสุดพรรณนาแห่งพระเจ้าสูงสุด และรัศมีอันบริสุทธิ์ แห่งความสว่างนิรันดร์” ชีวิตที่ประสาทชีวิตทั้งหมด ความสว่างที่เป็นท่อธารแห่งความสว่างทั้งหมด เป็นประกายเจิดจ้าของความสุกใสนิรันดร์ ซึ่งฉายส่องหน้าพระบัลลังก์ของพระเจ้าแต่ปฐมกาล โอ้ลำธารนิรันดรและไม่มีใครเข้าถึง ธารน้ำที่ใสและบริสุทธิ์ ไหลจากแหล่งลึกลับกับตามองไม่เห็น ไม่มีใครสามารถหยั่งความลึก หรือวัดตวงเขตของพระองค์ได้ ไม่มีใครสามารถวัดความกว้างของพระองค์ ไม่มีอะไรสามารถทำให้ความบริสุทธิ์ของพระองค์ แปดเปื้อนได้เลย ลำธารซึ่งมีความยินดีมาสู่นครของพระเจ้าไหลมาจากพระองค์ และทำให้เราร้องออกมาด้วยชื่นบาน ขอบพระคุณด้วยบทเพลงสรรเสริญ เพราะเราทราบจากประสบการณ์ว่า พระองค์ทรงเป็นธารน้ำแห่งชีวิต และเราได้เห็นแสงสว่าง จากความสว่างของพระองค์” (นักบุญบอนาแวนตูรา)
พระหฤทัยของพระเยซูเจ้า “ทรงบังเกิดความสงสาร (ทรงรู้สึกสมเพช)” ในพระเยซูเจ้าความรักความเอาใจใส่ของพระเจ้ากลับเป็นความรักแบบมนุษย์ มีอารมณ์ความรู้สึกสำหรับเราทุกคน พระองค์ทรงเอาพระทัยใส่ และทรงแสดงออกมาเป็นความสงสารผู้ยากไร้ คนเจ็บป่วยและบุคคลที่ไม่มีความสุข ให้สังเกตว่าในความคิดของคนโบราณ โรคร้ายมีสาเหตุมาจากจิตชั่วร้ายหรือปีศาจ ดังนั้น คนป่วยจึงไม่ไปหาแพทย์ แต่จะไปหาผู้ศักดิ์สิทธิ์เพื่อขอให้เราภาวนาและขับไล่ปีศาจ
วิธีรักษาที่พระเยซูเจ้าและผู้ร่วมงานของพระองค์ใช้ ซึ่งมองดูว่าเป็นการขับไล่ปีศาจนั้นเป็นเครื่องหมายอันงดงาม เพื่อบอกถึงการมาถึงแห่งอาณาจักรของพระเจ้าในโลกนี้ “อาณาจักรสวรรค์ใกล้เข้ามาแล้ว จงรักษาคนเจ็บป่วยให้หาย… ขับไล่ปีศาจ” ทั้งหมดนี้เป็นอีกเครื่องหมายหนึ่งของการมีพระทัยดีของพระเจ้าและความรักที่เมตตาสงสารต่อมนุษย์ที่กำลังเจ็บไข้
ดังเราจะเห็นได้จากพระวรสารของนักบุญมัทธิวที่กล่าวถึงความมีพระทัยเมตตาสงสารของพระองค์ว่า
“เวลานั้น เมื่อพระเยซูเจ้าทอดพระเนตรเห็นฝูงชน ทรงรู้สึกสมเพชเพราะเขาเหล่านั้นถูกรังควานไร้ที่พึ่งเหมือนแกะไม่มีผู้เลี้ยง แล้วพระองค์ตรัสกับพวกศิษย์ว่า “ข้าวจะเก็บเกี่ยวมีมาก แต่คนงานมีน้อย ดังนั้นจงอ้อนวอนขอเจ้าของนา ให้ส่งคนงานมาเก็บเกี่ยวเถิด”
เมื่อทรงเรียกศิษย์ทั้งสิบสองเข้ามาแล้ว พระองค์ประทานอำนาจแก่เขาให้ขับไล่จิตโสโครกและรักษาโรคแและความเจ็บไข้ทุกอย่างได้ จงไปประกาศว่า พระอาณาจักรสวรรค์ใกล้เข้ามาแล้ว จงรักษาคนเจ็บป่วยให้หาย ปลุกคนตายให้ฟื้น จงรักษาคนโรคเรื้อนให้สะอาด จงขับไล่ปีศาจให้ออกไป ท่านทั้งหลายได้รับเปล่า ๆ จงให้เปล่า ๆ (มธ.9:36-38; 10:1, 8) พระหฤทัยของพระเยซูเจ้า “ทรงบังเกิดความสงสาร (ทรงรู้สึกสมเพช)” ในพระเยซูเจ้าความรักความเอาใจใส่ของพระเจ้ากลับเป็นความรักแบบมนุษย์ มีอารมณ์ความรู้สึกสำหรับเราทุกคน พระองค์ทรงเอาพระทัยใส่ และทรงแสดงออกมาเป็นความสงสารผู้ยากไร้ คนเจ็บป่วยและบุคคลที่ไม่มีความสุข ให้สังเกตว่าในความคิดของคนโบราณ โรคร้ายมีสาเหตุมาจากจิตชั่วร้ายหรือปีศาจ ดังนั้น คนป่วยจึงไม่ไปหาแพทย์ แต่จะไปหาผู้ศักดิ์สิทธิ์เพื่อขอให้เราภาวนาและขับไล่ปีศาจ วิธีรักษาที่พระเยซูเจ้าและผู้ร่วมงานของพระองค์ใช้ ซึ่งมองดูว่าเป็นการขับไล่ปีศาจนั้นเป็นเครื่องหมายอันงดงาม เพื่อบอกถึงการมาถึงแห่งอาณาจักรของพระเจ้าในโลกนี้ “อาณาจักรสวรรค์ใกล้เข้ามาแล้ว จงรักษาคนเจ็บป่วยให้หาย… ขับไล่ปีศาจ” ทั้งหมดนี้เป็นอีกเครื่องหมายหนึ่งของการมีพระทัยดีของพระเจ้าและความรักที่เมตตาสงสารต่อมนุษย์ที่กำลังเจ็บไข้ ดังเราจะเห็นได้จากพระวรสารของนักบุญมัทธิวที่กล่าวถึงความมีพระทัยเมตตาสงสารของพระองค์ว่า “เวลานั้น เมื่อพระเยซูเจ้าทอดพระเนตรเห็นฝูงชน ทรงรู้สึกสมเพชเพราะเขาเหล่านั้นถูกรังควานไร้ที่พึ่งเหมือนแกะไม่มีผู้เลี้ยง แล้วพระองค์ตรัสกับพวกศิษย์ว่า “ข้าวจะเก็บเกี่ยวมีมาก แต่คนงานมีน้อย ดังนั้นจงอ้อนวอนขอเจ้าของนา ให้ส่งคนงานมาเก็บเกี่ยวเถิด” เมื่อทรงเรียกศิษย์ทั้งสิบสองเข้ามาแล้ว พระองค์ประทานอำนาจแก่เขาให้ขับไล่จิตโสโครกและรักษาโรคแและความเจ็บไข้ทุกอย่างได้ จงไปประกาศว่า พระอาณาจักรสวรรค์ใกล้เข้ามาแล้ว จงรักษาคนเจ็บป่วยให้หาย ปลุกคนตายให้ฟื้น จงรักษาคนโรคเรื้อนให้สะอาด จงขับไล่ปีศาจให้ออกไป ท่านทั้งหลายได้รับเปล่า ๆ จงให้เปล่า ๆ (มธ.9:36-38; 10:1, 8) |
Myspace Falling Objects @ JellyMuffin.com